เมนู

ก็ในอุปาทาน 4 ที่ทรงแสดงไว้ในนิเทศนี้ ด้วยอาการอย่างนี้ กาม-
ตัณหาย่อมเป็นปัจจัยอย่างเดียว ด้วยอำนาจอุปนิสสยปัจจัย แก่กามุปาทานแรก
เพราะเกิดในอารมณ์ทั้งหลายที่พอใจด้วยตัณหา แต่ตัณหานั้น ย่อมเป็นปัจจัย
7 อย่าง ด้วยอำนาจสหชาตปัจจัย อัญญมัญญปัจจัย นิสสยปัจจัย สัมปยุตต-
ปัจจัย อัตถิปัจจัย อวิคตปัจจัย และเหตุปัจจัย หรือเป็นปัจจัย 8 อย่าง พร้อม
ด้วยอุปนิสสยปัจจัย แก่อุปาทาน 3 ที่เหลือ อนึ่ง เมื่อใดตัณหานั้นเป็นปัจจัย
ด้วยอำนาจอุปนิสสยปัจจัย เมื่อนั้นตัณหานั้น ย่อมเกิดพร้อมกันทีเดียว.
นิเทศอุปาทานเกิดเพราะตัณหาเป็นปัจจัย จบ

ว่าด้วยนิเทศแห่งภพ

(บาลีข้อ 265)
ในนิเทศแห่งภพเกิดเพราะอุปาทานเป็นปัจจัย
พึงทราบวินิจฉัยโดยอรรถโดยธรรม
โดยทบทวนบทที่มีประโยชน์ โดยการแยก
ภพและรวมภพ และโดยอุปาทานใดเป็น
ปัจจัยแก่ภพใด.

ในพระบาลีนั้น พึงทราบวินิจฉัยว่า ที่ชื่อว่า ภพ เพราะอรรถว่ามี.
บทว่า ทุวิเธน (ภพ 2) มีอธิบายว่า กำหนดโดยอาการ 2 อย่าง อีกอย่างหนึ่ง
บทว่า ทุวิเธน เป็นตติยาวิภัตติ ใช้ในปฐมาวิภัตติ อธิบายว่า เท่ากับ ทุวิโธ
แปลว่า 2 อย่าง. บทว่า อตฺถิ แปลว่า มีอยู่พร้อม.
ภพคือกรรม ชื่อว่า กรรมภพ. ภพคือความเกิดขึ้น ชื่อว่า
อุปปัตติภพ. ในกรรมภพและอุปปัตติภพนี้ ความเกิดขึ้น ชื่อว่า ภพ
เพราะอรรถว่า ย่อมมี ส่วนกรรม พึงทราบว่า ชื่อว่า ภพ โดยโวหารว่า